หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่แถลงเศรษฐกิจ 3 ไตรมาสปี 2563 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2564 หดตัวมาก สาขาท่องเที่ยวจึงเป็นสาขาที่ฟื้นตัวช้าที่สุด ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหายไปจากระบบไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท หวังปัจจัยรอดหลักมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพและลงลึกถึงเศรษฐกิจชุมชน และการจ้างงานในพื้นที่ชี้การเตรียมรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) แบบจำกัดในพื้นที่เชียงใหม่ต้องรอบคอบและมีมาตรการที่รัดกุมหากทำได้จะเป็นพื้นที่ต้นแบบกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้
นายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2563 และแนวโน้มปี 2564 ว่า หากประเมินภาพรวมปี 2563 ถือว่าเศรษฐกิจในพื้นที่หดตัวมาก เพราะได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดทั้งในและต่างประเทศเป็นสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจเชียงใหม่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในเกณฑ์สูงและสาขาท่องเที่ยวจึงเป็นสาขาที่ฟื้นตัวช้าที่สุดทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในฟื้นที่ตลอดทั้งปีหายไปจ
ากระบบไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท
ส่วนปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2564 จะสอดคล้องกับเศรษฐกิจ มหภาคคือขึ้นอยู่การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงในไทย หากไม่มีการระบาด โอกาสการฟื้นตัวจะเร็วขึ้น รวมถึงปัจจัยเรื่องวัคซีน การใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐ กิจมีประสิทธิภาพและการเตรียมพร้อมเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้เป็นต้น
“ ล่าสุดเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมด้านมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในการจัดเตรียมที่พักแบบ Alternative Local Quarantine สำหรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) แบบจำกัดจำนวนตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาฯ การท่าอากาศยานเตรียมความพร้อมที่จะรับเที่ยวบินระหว่างประเทศวันละ 2 เที่ยวบิน หรือไม่เกินวันละ 400 คน ในส่วนหอการค้าฯ คิดว่าเราจะต้องรอบคอบและมีมาตรการที่เข้มงวด ซึ่งหากดำเนินการได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อมาตรการด้านสาธารณสุขรวมถึงความร่วมมือของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หอการค้าฯ ก็จะได้มีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการปฏิบัติของจังหวัด-เชียงใหม่ต่อไป ซึ่งหากดำเนินการได้จะเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ได้
ซึ่งคิดว่าภายในปีนี้ยังคงไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ”
ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกจากการติดตามของหอการค้าฯ พบว่าการบริโภคการบริโภคภาคเอกชนหดตัวมากตามกำลังซื้อโดยรวมที่ลดลงจากมาตรการควบคุมโรคระบาดและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ
การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องทั้งการลงทุนด้านก่อสร้างและลงทุนในเครื่องจักและอุปกรณ์การก่อสร้างทั้งอาคารสูงและแนวราบหายไปจากผลของ COVID-19 การซื้อของลูกค้าในประเทศมีประปรายเนื่องจากขาดสภาพคล่องภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ชะลอการลงทุนโครงการใหม่ออกไปก่อน ขณะที่มาตรการเยียวยาภาครัฐช่วยพยุงการบริโภคเพียงบางส่วน การใช้จ่ายสินค้าลดลงทุกหมวดสินค้าโดยเฉพาะหมวดบริการสินค้าในชีวิตประจำวัน และหมวดยานยนต์หาดตัวมากทุกประเภท
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564 อยู่กับมาตรการและนโยบายกระตุ้นของภาครัฐเป็นเรื่องหลักได้แก่ กระตุ้นกำลังซื้อภาคชาวบ้านผ่านราคาสินค้าเกษตรและกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย การกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มการใช้จ่าย ทดแทนการลงทุนภาคเอกชนการดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนและสามารถแข่งขันได้โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเปราะบางและ SMEซึ่งล่าสุดออกมาตรการด้านการสร้างแรงงานตามโครงการ 1 มหาวิทยาลัย 1 ตำบลก็จะช่วยให้แรงงาน และนักศึกษาจบใหม่มีงานทำเพิ่มมากขึ้น